ขายอะไรดี

 ขายอะไรดี ในปัจจุบันนี้ ??

วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่องการขายของกันนะคะ หลายๆคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้อาจจะต้องการข้อมูลหรือข้อแนะนำในการขายของ ขายสินค้า, ในการขายของนั้นสิ่งหลักๆที่เราต้องคำนึงถึงคือ ความต้องการของผู้ซื้อ สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจัยและทำเล และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ โฆษณา ซึ่งในปัจจุบันนี้ถ้าถามว่าการที่จะหาปัจจัยและทำเลสำหรับขายของนั้น ถือว่าหาได้ยากมากเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากหลายทำเลที่ดีก็จะมีราคาที่สูงลิ่ว หรือมีผู้ค้าหลักๆในพื้นที่แล้วและการโฆษณาในปัจจุบันก็มีราคาสูงมาก เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ค้ารายใหม่ หน้าใหม่ที่ต้องการลงสู่ตลาดการขายของคือว่าลำบากมาก จากหลายๆปัจจัยและจากประสบการณ์แล้ว ในยุคนี้การซื้อขายเริ่มเข้าสู่การใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวช่วย ดังนั้นตลาดใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คือ การขายของออนไลน์ ทางอินเตอร์เน็ตนั้นเองซึ่งจะว่าไปแล้วการขายของออนไลนนั้นก็เหมือนกับการขายของทั่วไป แทบจะดีกว่ากว่าการขายของหน้าร้านด้วยซ้ำเนื่องจากสามารถเข้าถึงได้มากมายและหลากหลายกว่ารวมถึงต้นทุนที่ใช้ก็ต่ำกว่ามากด้วย

จะว่าไปแล้ว การขายของออนไลน์นั้นถือว่าเป็นตลาดที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเข้าถึงได้ทุกคนที่สำคัญคือ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งการจะหวังขายของแค่ในไทยนั้นก็ทำได้ แต่เนื่องด้วยหลายๆอย่างและความเสี่ยงจากเศรษฐกิจหรือความวุ่นวายของแต่ละประเทศนั้น การขายของในต่างประเทศจึงจะดีที่สุดอีกทั้งยังได้กำไรมากกว่าการจำกัดแค่การขายในประเทศอย่างเดียวเท่านั้นอีกด้วย จากการคิดง่ายๆจากจำนวนประชากรไทยที่เล่นอินเตอร์เน็ตซักประมาณ 35 ล้านคน ถ้าเราได้ส่วนแบ่งทางการขายของออนไลน์ซัก 0.001 %  เราก็จะมีลูกค้าที่รู้จักร้านค้าขายของออนไลน์ของเราจะอาจจะซื้อของกับเราถึง 35,000 คน ซึ่งเยอะกว่าร้านค้าที่ขายของหน้าร้านหลายๆร้านด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเรามีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเราสามารถขายของออนไลน์กับผู้คนทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน ซึ่งแค่การทำให้ร้านค้าของเรามีคนรู้จัก 100,000 คนคงไม่ใช่เรื่องยากเลย


 
ตัวอย่างหน้าเว็บร้านขายของออนไลน์

การขายของออนไลน์นั้นจะว่าไปสิ่งที่ต้องคิดก็ไม่ได้ต่างกับการขายของหน้าร้านมากนักสิ่งแรกที่ต้องคิดก็คือ ขายอะไรดี ตรงส่วนนี้ควรนึกถึงตลาดซึ่งถ้าเราจะขายของกับต่างประเทศก็ควรเลือกสินค้าที่คนต่างประเทศต้องการ อยากได้ หรือชอบ ยกตัวอย่างเช่นบ้านเราอยู่ใกล้แหล่งขายเครื่องไม้แกะสลัก ราคาชิ้นละ 150 บาท เราก็อาจจะไปถ่ายรูปสินค้านั้นๆแล้วนำไปลงในเว็บขายของออนไลน์ของเราโดยอาจจะบวกราคาเป็น 500 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง คนต่างประเทศเค้าก็ซื้อค่ะ เค้ามองว่าราคาถูกมาก แล้วเค้าหาซื้อไม่ได้ ซึ่งการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองนั้นก็สำคัญมาก ถ้าเราต้องการที่จะสร้างแบรนด์ของตนเองและต้องการขยายธุรกิจของเราให้ใหญ่ขึ้น เพราะเมื่อมีคนรู้จักก็จะมีการบอกต่อ มีการแนะนำ มีคนรู้จัก เมื่อนั้นร้านขายของออนไลน์ของเราก็มีลูกค้าไม่ขาดแล้วค่ะ ดูอย่างเว็บไซต์ Amazon.com ซึ่งสมัยก่อนเป็นเว็บไซต์ขายเฉพาะแต่หนังสือ ร้านเล็กๆจนขยายธุรกิจจากการขายสินค้าออนไลต์จนปัจจุบันกลายเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ทุกประเภทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาที่ทุกคนต้องรู้จักไปแล้ว

ต่อไปจะแนะนำถึงวิธีการสร้างเว็บนะคะ  ถ้าเนื้อหายาวเกินไปต้องขอโทษด้วยนะคะ

ซึ่งสิ่งหลักๆที่เราต้องใช้ในการเปิดร้านขายของออนไลน์ก็คือ Website ของเราค่ะ ซึ่งต้องใช้สองสิ่งนี้คือ
  • โฮสติ้ง ( Hosting ) - โฮสติ้งนั้นถ้าพูดง่ายๆก็คือตัว Server สำหรับ Website ของเราค่ะ
  • โดเมน ( Domain ) - โดเมนนั้นก็คือชื่อเว็บไซต์ของเราค่ะ
     โดเมน ( Domain ) และ โฮสติ้ง ( Hosting ) จุดประสงค์และความหมายหลักๆของ Domain นั้นก็คือ ชื่อ Website ของเรานั้นเองเช่น เราต้องการจะสร้าง Website ที่ชื่อว่า www.howtolookgood.com นั้น เราต้องทำการจด Domain ในชื่อ howtolookgood กับบริษัทหรือเว็บไซต์ที่รับจด Domain ก่อนเพื่อตรวจเช็คว่าชื่อนี้มีคนเป็นเจ้าของแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มีเราก็สามารถที่จะจด Domain ในชื่อนั้นได้เพื่อนำไปใช้ในการเข้า Website ของเราคะ โดย Website ที่รับการจด Domain นั้นมีมากมาย ซึ่งจะขอยกตัวอย่างรายชื่อเว็บไซต์ที่ดิฉันนั้นใช้อยู่เป็นประจำเพราะใช้ ง่ายและมีโปรโมชั่นต่างๆในการลดราคาออกมาตลอดค่ะ www.godaddy.com ซึ่งเมื่อเรามีชื่อ Website ของเราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรียกกันว่า Domain Name

โดยต่อมาเราต้องมี Hosting เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล และเป็น Server ให้กับ Website ของเราค่ะ ซึ่ง Hosting นี้ก็จะทำหน้าที่คล้ายๆกับเป็นเหมือน Computer ที่จะคอยเปิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้คนอื่นสามารถเข้ามาดูข้อมูลที่ Website ของเราได้ตลอดเวลาคะ ซึ่งปัจจุบันก็มีบริษัทที่รับเป็น Hosting อีกมากมายเช่นกันคะ โดยเมื่อเรามี Hosting แล้วจะได้สิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Name Server ซึ่ง Name Server นี้จะใช้ในการใส่ค่าใน Domain Name ของเรา เพื่อให้ Domain Name นั้นชี้ค่ามาที่ Hosting ของเราที่เก็บข้อมูลของ Website เราไว้ค่ะ โดย Web Hosting ที่ดิฉันใช้อยู่เป็นประจำก็คือของ www.hostgator.com/ ซึ่งเป็น Hosting ที่ตั้งอยู่ที่ อเมริกา จึงส่งผลดีในการทำ Website แบบ International โดยสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะเลือกสมัครแบบไหนดี เราขอแนะนำเป็นแบบ Baby Plan คะ เพราะมันสามารถมี Website ที่เก็บใน Hosting ได้แบบ Unlimited ซึ่งหมายความว่าเราสามารถมีหลายๆ Domain Name ชี้เข้ามาที่ Hosting นั้นได้ที่เดียวเลยค่ะ ทำให้เราควบคุม ดูแลง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้ Hatching Plan ซึ่งสามารถเก็บได้แค่ 1 Domain ทำให้เมื่อเรามี Website ใหม่ เราก็ต้องเสียเงินเพื่อสมัคร Hosting ใหม่ค่ะ ซึ่งราคาในการสมัคร Hosting จะอยู่ที่ประมาณ 8 $ ต่อหนึ่งเดือน หรือประมาณ 240 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับเราทำ Website แล้วได้อย่างน้อยๆ 1 $ ต่อวัน เราก็จะได้ 30 $ ซึ่งเราก็ยังได้กำไรอยู่ดีค่ะ โดย Web Hosting ที่ดิฉันแนะนำนี้ก็ยังมี Coupon ต่างๆที่สามารถใช้ลดราคาให้ถูกลงกว่าเดิมได้ด้วยค่ะ โดยขั้นตอนการสมัคร Domain และ Web Hosting จะขอเสนอข้างล่างนะคะ

ขั้นตอนนี้เป็นการสมัคร Domain นะคะ

โดย Website ที่ดิฉันแนะนำจะเป็น www.godaddy.com ค่ะ เพราะเป็น Website ที่มีมาตรฐานสูง และมีส่วนลดเยอะค่ะ



หลังจากที่เรากรอกชื่อ Domain ที่เราต้องการโดยเราขอแนะนำให้ใช้เป็น .com จะดีที่สุดจากประสบการณ์ที่ได้มาคะ

ตัวอย่างดังภาพเป็นชื่อ Website howtolookgoods.com ซึ่งยังไม่มีคนใช้ เมื่อเราได้ชื่อ Domain Name ที่ต้องการของเราแล้ว ให้เรากด Add และ Continue to Registration คะ ถ้ามีหน้าต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมาถามว่าจะเอาอันนั้น อันนี้มั้ย ให้ตอบ No Thank ไปนะคะ

โดยในหน้าต่อไปทาง Website จะให้กรอกข้อมูลผู้ซื้อต่างๆและข้อมูลการจ่ายเงินค่ะ โดยใช้ได้ทั้ง Paypal หรือ Debit Card ก็ได้คะ
ในการสมัคร Domain Name ให้เรากรอกข้อมูลตามจริง และในส่วนของระยะเวลาฉันแนะนำเป็น 1 ปี เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ดูก่อนว่า Website ที่เราทำนั้นดีหรือไม่ ถ้าดีเราถึงควรต่ออายุ แต่ถ้าไม่ดีก็แนะนำให้ลองชื่อ Domain Name อื่นๆคะ โดยในส่วน Certified Domain ให้เลือก Uncertified นะคะ หลังจากนั้นให้กด Next ไปเรื่อยๆเพื่อเข้าสู่หน้า Shopping Cart ค่ะ หลังจากที่เราเช็คราคาแล้วซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12 $ ต่อหนึ่งปีนะคะ ให้สังเกตุดีๆ อะไรที่ไม่จำเป็น ที่เราไม่ได้เลือกไปให้ Delete ออกนะคะ เมื่อ Checkout และจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ทาง Godaddy จะส่งข้อมูล Domain เข้ามาให้ทาง E-mail นะคะ ซึ่งเราต้อง Set Name Server ใน Domain Name อีกที แต่เราต้องมี Hosting ก่อนนะคะ

ในส่วนของของ Hosting นั้นดิฉันของแนะนำเป็น www.hostgator.com นะคะ เนื่องจากว่า ดิฉันเองใช้ Hosting นี้อยู่จึงคุ้นเคยถึงวิธีการใช้ Hosting นี้เป็นอย่างดี และ Web Hosting นี้มีระบบการ Support ลูกค้าที่ดีมากค่ะ อีกทั้งเป็นระบบ Cpanal หรือพูดง่ายๆก็เป็นแบบมีหน้าตา Interface ให้มีรูปให้เราคลิกเลือกใช้ได้ง่ายๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกันการใช้ Hosting มากๆ

สำหรับผู้ที่สนใจ Hosting อีกเจ้าซึ่งเป็นที่นิยมและใช้ง่ายและราคาถูกตามด้านล่างค่ะ

>>  www.ipage.com <<


ในส่วนของ Plan ขอแนะนำเป็น Baby Plan นะคะ เนื่องจากคุ้มที่สุดคะ

ในหน้าต่อไปจะเป็นส่วนที่ให้ใส่ Domain Name และ Coupon Code ค่ะ โดยในส่วน Domain ให้เราใส่ในช่อง Use an existing domain name นะคะ โดยใส่ Domain ที่เราเพิ่งได้สมัครไปในข้างต้น และในส่วน Coupon Code ดิฉันขอแนะนำเป็นให้ใส่ discode25per คะ ซึ่งสามารถลดราคาไปได้ 25 % คะ


ในขั้นต่อไปจะเป็นหน้าการกรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลบัตรค่ะ โดยดิฉันแนะนำให้เลือกส่วนของ Billing Cycle เป็นหนึ่งปีคะ เพื่อที่จะได้พอดีกับเวลาอายุ Domain Name และได้ส่วนลดจาก Coupon Code 20 % มากขึ้นค่ะ โดยสามารถลดราคาไปได้ประมาณ 30 $ ต่อหนึ่งปี จึงเหลือ ประมาณ 90 $ หรือ 2700 บาท ต่อปีหรือเดือนละ 225 บาทเองค่ะ


เมื่อเราทำการ Checkout เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทาง Web Hosting จะทำการส่ง Link ของหน้าที่ใช้ Login ไปยัง Web Hosting ของเราเอง และ Name Server ของ Hosting เราคะ ซึ่งส่วนนี้สำคัญมากให้เราบันทึกไว้เพื่อใช้ในการเข้าหรือการสมัคร Domain Name ใหม่ด้วยนะคะ
เมื่อเราสามารถ Login และ เข้ามาในหน้านี้ได้สำเร็จแสดงว่าเราได้ Web Hosting ของเราเองมาแล้วค่ะ โดยในส่วนต่อไปเราจะมาทำการ Set Name Server ให้กับ Domain Name ของเราที่ได้สมัครไปในข้างต้นค่ะ

โดยให้เราเข้าไปใน www.godaddy.com อีกครั้ง และทำการ login จาก username ที่เราได้ทำการสั่งซื้อ Domain Name นั้นไป จากนั้นให้เลือกตรงส่วน My Account และตรงส่วนของช่อง Domain ให้เลือก Launch ค่ะ ซึ่งเราจะเข้ามาในหน้า Domain Manager
ในส่วนของหน้า Domain Manager ให้เราติ๊กถูกที่หน้า Domain Name ที่เราต้องการ Set Name Server และให้เราเลือกที่ Set Name Server ดังรูป

 จากนั้นให้เราเลือก I have specific nameserver for my domains. และใส่ค่า Name Server ที่เราได้มาจากการสมัคร Hosting ค่ะ โดยค่า Name Server ที่เราได้มาจะได้มา 2 ค่า ให้เราใส่ค่าไปดังตัวอย่างแล้วกด Ok ค่ะ

เท่านี้เราจะเสร็จใน การตั้งค่า Name Server ให้ Domain Name ของเราแล้วค่ะ โดยอาจจะใช้เวลาในการ อัพเดท Name Server ประมาณ 5 นาทีนะคะ

หลังจากนั้นให้เรากลับ มาที่หน้า Cpanal หรือหน้า login ของ Hosting เราอีกรอบเพื่อที่จะ Add Domain ของเราค่ะ โดยในหน้านี้ให้เราหาในส่วนที่ชื่อว่า Addon Domains นะคะ
 เมื่อเราคลิกเข้าไปดังรูปจะเข้าสู่หน้า Create an Addon Domain ในหน้านี้ให้เราใส่ชื่อ Domain Name ที่เราได้สมัครและ Set Name Server ไว้ในข้างต้นไว้ และกำหนด Password เพื่อความปลอดภัย จากนั้นกด Add Domain คะ 

ในตอนนี้ Website ของเราก็จะ Online และเข้าได้จากคนทั่วโลกแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ Website ของเรายังไม่มีข้อมูลใดๆ ต่อไปจะเป็นขั้นตอนในการสร้าง Website นะคะ โดยถ้าการทำ Website ทั้วไปที่ง่ายที่สุดคือการใช้ Wordpress ค่ะ ซึ่ง Wordpress นั้นจะคล้ายๆกับ Blog นั้นเเหละค่ะ โดยเมื่อเราลง Wordpress แล้วก็สามารถเข้าไปเขียนเนื้อหาของเราได้ง่ายๆเลยค่ะ ไม่ต้องยุ่งยากเขียนโค้ดหรืออะไรเลยทั้งยังปรับแต่งหน้าตา Website ได้ด้วย Theme เยอะแยะของเค้าเลย โดย Wordpress จะมี Plugin มากมายให้โหลดเสริมได้ฟรี ยกตัวอย่างเช่น Plugin E-Commerce จะช่วยเสริมให้ Website ของเรามีฟังชั่นในการเปิดร้านขายของออนไลน์ พวกระบบ Cart จ่ายเงิน ใบเสร็จ อะไรพวกนี้ให้ค่ะ 
ซึ่งในตอนนี้จะขอแนะนำในการใช้ Magento Script ซึ่งเป็นสคริปสำหรับสร้างเว็บไซต์ขายของโดยเฉพาะ

ซึ่งการ Install Magento ลง Website ของเรานั้นง่ายมากโดนเลือกที่ QuickInstall ดังรูปภาพเมื่อเข้าไปแล้ว ทางมุมแทบด้านซ้ายให้มองหาที่เขียนว่า eCommerce Software แล้วเลือกที่ Magento 


จากนั้นให้เลือกชื่อเว็บของเราและใส่พวกรายละเอียดอีเมลล์ ค่าเงิน เวลาและกด Install Now เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีลิ้งให้เราสำหรับเข้าไปหน้า Admin ให้ทำการ login และใส่รายละเอียดสินค้า เพิ่มของที่เราต้องการขายได้ ซึ่ง Magento นี้เราสามารถปรับแต่งอะไรได้เยอะแยะมากมาย ตั้งภาษาไทย/อังกฤษได้ ปรับขายสินค้าแบบ Digital Download สามารถเพิ่มประเภทสินค้า ปรับแต่ง Theme รูปแบบเว็บให้สวยได้ Magento แทบจะทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาศึกษาหน่อยเพื่อความคล่องนะ ตรงส่วน QuickInstall นี้ถ้าใครอยากลองใช้ Wordpress ก็สามารถเลือก Install ได้เหมือนกันค่ะ

ตัวอย่างหน้า Admin ของ Magento

อันนี้เป็นตัวอย่างร้านขายของออนไลน์ที่ใช้ Magento ทำค่ะ Demo

สำหรับพวก Theme ของพวก Magento กับ Wordpress พวกนี้ขอแนะนำเป็นเว็บ http://themeforest.net นะคะ เพราะเว็บนี้มีธีมสวยๆเยอะมากและคนส่วนใหญ่ทั้งในไทยและทั่วโลกก็นิยมซื้อธีมจากเว็ปนี้มากๆ เพราะแต่จะธีมมีการซับพอร์ตสำหรับผู้ซื้อดีมากค่ะ

ขอให้โชคดี ร่ำรวยกันทุกคนนะค่ะ ประสบความสำเร็จกับทุกธุรกิจที่ทำค่ะ

สำหรับคนที่ไม่อยากลงทุนในการซื้อสินค้าปัจจุบันมีการขายของโดยการเป็น Affiliate กับทาง Website ขายของลองดูอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://หัดทําอเมซอน.blogspot.com/